
ประวัติ ‘พุฒิ ภูมิจิต’
ก่อนจะไปทำความรู้จักกับ ‘พุฒิ ภูมิจิต’ เรามาทำความรู้จักกับวงดนตรี ‘ภูมิจิต’ กันก่อนดีกว่า โดยวงดนตรี ‘ภูมิจิต’ เป็นวงดนตรีอิสระ ซึ่งเล่นดนตรีในสไตล์ ‘Alternative Rock’ มาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2545 โดยสมาชิกประกอบด้วย
- พุฒิยศ – นักร้องนำ
- เกษม – มือกีตาร์
- ชานนท์ – มือเบส
- ฉันทวัช – มือกลอง
โดยสมาชิกทุกคนมาจากเพื่อนนิสิต ที่เรียนร่วมกัน ณ มหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์
‘ภูมิจิต’ คือ วงดนตรี Indy เริ่มสร้างผลงานเพลงมาตั้งแต่ปี 2002 ซึ่งพัฒนาผลงานมาจนกระทั่งถึงปัจจุบันนี้ โดยสิ่งหนึ่งที่ทำให้วงดนตรีอยู่รอดมาได้ เป็นเพราะทั้ง 4 คนนั้นเป็นเพื่อนกัน เพราะฉะนั้นเวลามาเจอกันมันก็ราวกับได้มาพบปะสังสรรค์กัน ถึงแม้จะเจอกันไม่บ่อยเทาไหร่ หากแต่ก็จะพยายามหาเวลามาเจอกันสัปดาห์ละ 1 ครั้ง และปัจจัยที่ 2 ก็คือยังมีผู้คนตามฟังอยู่เรื่อยๆ ทำให้มีกำลังใจสร้างสรรค์ผลงานเพลงต่อไป
เริ่มต้นมาจากพุฒิและกานต์
สำหรับจุดเริ่มต้นนั้นมาจากสมัยพวกเขากำลังเรียนอยู่มหาวิทยาลัย พุฒิและกานต์ได้รู้จักกันผ่านเพื่อนของทั้ง 2 คนอีกที ต่อมาเมื่อคุยกันถูกคอจึงรู้ว่าฟังเพลงแนวเดียวกัน และก็กลายเป็นเพื่อนซี้ซึ่งพากันไปดูคอนเสิร์ตที่ถูกใจกันทุกงาน จนกระทั่งมาถึงวันที่มีงานประกวดในมหาวิทยาลัย พวกเขาจึงนำเพลงที่เคยเขียนและแต่งเก็บไว้มาสร้างงานดนตรีอย่างจริงจัง หลังจากนั้นเป็นต้นมา ก็มีการฟอร์มวงขึ้น หากแต่เมื่อเวลาผ่านไปสมาชิกชุดนั้นก็ต้องออกไปทำหน้าที่ของตัวเอง จึงมีการเปลี่ยนสมาชิกใหม่เพื่อทำเพลงต่อไปนั่นเอง
มาทำความรู้จักกับ ‘พุฒิ ภูมิจิต’ ให้มากขึ้น
‘พุฒิ ภูมิจิต’ เกิดวันที่ 1 ตุลาคม งานหลักของเขาไม่ใช่งานดนตรีอย่างที่หลายๆ คนเข้าใจ โดยเขาเป็นวิศวกร ทำงานอยู่ในบริษัทญี่ปุ่นแห่งหนึ่ง ซึ่งทำเครื่องจักรขาย ภายใต้อุตสาหกรรม Heat Exchanger โดยตำแหน่งเขา คือ หัวหน้าวิศวกร ซึ่งหลายๆ คนก็คงทราบกันดีอยู่แล้วว่าทั้งตำแหน่งและสายงานนี้รายได้ไม่ธรรมดาเลย ซึ่งการที่ ‘พุฒิ ภูมิจิต’ ไม่ได้มองอาชีพดนตรีในเรื่องของเม็ดเงินเพียงอย่างเดียว เขายกตัวอย่างให้ฟังว่า นักเขียนหลายๆ คนต้องเขียนงานเนื่องจากอยากสื่อสารเรื่องราวบางอย่างออกมา หรือในส่วนของคนทำหนังก็ต้องมีหนังในแบบที่ตัวเองอยากทำอยู่ เพราะฉะนั้นการสร้างสรรค์ผลงานดนตรีของเขาก็มีความคล้ายกัน ‘พุฒิ ภูมิจิต’ เล่นดนตรีเพราะต้องการสื่อสารด้วยการบอกเล่าเรื่องราวบางอย่างจึงทำวงภูมิจิตขึ้นมา
ชีวิตเคยตกงานอยู่ครึ่งปี เนื่องจากการเล่นดนตรีกระทบกับงานประจำ
‘พุฒิ ภูมิจิต’ เคยมีความคิดอยากจะทิ้งเส้นทางนี้หลายครั้งมากๆ โดยตลอดช่วงระยะเวลา 5 ปีที่ทำอัลบั้ม ‘Midlife’ ก็คิดเรื่องนี้บ่อย เพราะเมื่อลองย้อนไปในสมัยวัยรุ่น เขาสามารถทิ้งทุกอย่างเพื่อลงไปลุยกับมันได้แบบเต็มตัว หากแต่ต่อมาเมื่อเขาเกิดเป้าหมายใหม่ๆ ในชีวิตเพิ่มเติม เช่น เขาต้องการจะแต่งงาน เขาก็ความรู้สึกคิดว่า เขาไม่อาจทิ้งทุกอย่างเพื่อทำสิ่งที่ฝันได้อีกต่อไปแล้ว เนื่องจากก็มีชีวิตจริงบางประการที่เราต้องดูแลด้วย เขาจึงพยายามหาวิธีที่จะทำให้ตัวเองยังสามารถทำสิ่งที่ต้องการทำได้อยู่ และแน่นอนว่าวิธีการที่จะทำให้อยู่รอดได้ ก็คือ การทำงานประจำนั่นเอง ทำให้ชีวิตหนักมาก หลังเลิกงานก็จะต้อง ไปทำวง ไปทำเพลง เพราะฉะนั้นสิ่งเหล่านี้ ก็กินเวลาชีวิตไปมากเลยทีเดียว
เพราะฉะนั้นแล้วชีวิตของ ‘พุฒิ ภูมิจิต’ ก็คงเป็นเหมือนเช่นในเพลงของเขา ‘Active Income’ ในเนื้อเพลงที่สื่อว่า ‘ทั้งรัก ทั้งฝัน ทั้งเงิน ทั้งงาน’ ซึ่งเป็นแนวคิดอันใหม่ของเขาในช่วงนี้ ซึ่งต้องทุ่มเทพลังไปกับทุกๆ ด้านของชีวิต ฝันก็ต้องไขว่คว้า เงินก็ต้องหางานก็ต้องทำ ครอบครัวก็ต้องดูแล เรียกได้ว่าทุกอย่างในชีวิตมีสายใยเชื่อมโยงกันหมดเลย